ทรงเป็นมิ่งขวัญของชาวพุทธจากพระกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ และพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ ในการเสด็จประพาสจังหวัดภูเก็ต ได้เสด็จยังวัด และมีพระราชกรณีกิจ ในการส่งเสริมทะนุบำรุงวัด ดังเช่น ในตอนบ่ายวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๐๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ และพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ ทรงได้เสด็จไปยัง วัดพุทธมงคลนิมิต ซึ่งได้นมัสการพระพุทธรูปทองคำ ที่เพิ่งขุดพบใหม่ด้วย ได้รับสั่งกับเจ้าอาวาสว่ามีลักษณะที่งดงามมาก ทรงเสด็จไปวัดพระทอง ทรงปิดทองพระประธานในวัด
        วันอังคารที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๑๐ ทรงเสด็จ ฯ ประกอบพิธีปิดทอง และทรงเจิมช่อฟ้าอุโบสถวัดเจริญสมณกิจ ผู้มีจิตศรัทธาทูลเกล้าฯ ถวายเงินสมทบทุน ก่อสร้างอุโบสถจำนวน ๙ ราย พระครูสถิตบุญญารักษ์ รองเจ้าอาวาสวัดเจริญสมณกิจ ถวายพระพิมพ์ ทรงมีพระราชดำรัส เกี่ยวกับนโยบายพระศาสนา
        ในวันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินประพาสภูเก็ตเป็นครั้งที่ ๓ ซึ่งมี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร ตามเสด็จ ทรงนำ “พระพุทธนวราชบพิตร” ซึ่งทรงสร้างด้วยพระองค์เอง เป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลของพระองค์ มาพระราชทาน ไว้เป็นพระพุทธรูปประจำเมืองภูเก็ต เพื่อพระราชทานให้พสกนิกรชาวไทย นำไปบูชา เสริมสร้างสิริมงคล ในชีวิต



        ทรงเป็นมิ่งขวัญต่อศาสนาอื่นๆพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ และพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงให้การอุปถัมถ์ ส่งสริม ต่อศาสนาอื่น ที่มีในจังหวัดภูเก็ต อย่างเท่าเทียมกัน ทั้งศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ และซิกข์ โดยมีพระราชกรณีกิจต่างๆ ตลอดมา