ภูเก็ต ประชุมเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ปี 2567 โดยอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่ง มีปริมาณน้ำ รวม 16.08 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 72.7 % ของความจุทั้งหมด คาดการณ์หากฝนทิ้งช่วงยังคงมีน้ำใช้ได้จนถึงเดือนพฤษภาคม 2567 อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่ามากที่สุด
วันที่ 23 มกราคม 2567 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมจันพันวา ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุม กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 3/ 2567 (เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง และป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ปี 2567 ครั้งที่ 1/2567) เพื่อหารือเตรียมแผนการบริหารจัดการน้ำในจังหวัดภูเก็ตช่วงหน้าแล้ง
ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 แห่งของจังหวัดภูเก็ต มีปริมาณน้ำ รวม 16.08 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 72.7 % ของความจุทั้งหมด คาดการณ์หากฝนทิ้งช่วงยังคงมีน้ำใช้ได้จนถึงเดือนพฤษภาคม 2567 อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่ามากที่สุด ในส่วนของการสำรวจบ่อน้ำบาดาลมีที่ยังคงใช้การและมีน้ำจำนวน 183 บ่อ
ส่วนสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เกิดจากได้รับอิทธิพล การแพร่กระจายของฝุ่นละอองจากภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านและเกิดจากแหล่งกำเนิดมลพิษในพื้นที่เช่น รถยนต์และการเผาในที่โล่ง โอกาสนี้ที่ประชุมได้มีการนำเสนอ 9 มาตรการ รองรับดูแล้งปี 2566/67 ประกอบด้วย 1) เฝ้าระวังและเตรียมจัดการแหล่งน้ำสำรอง วางแผนเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือในพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงขาดแคลนน้ำ พร้อมจัดทำระบบฐานข้อมูลกลางมีมาตรฐานเพื่อใช้ในการบริหารจัดการพื้นที่เสี่ยงและพื้นที่เกิดเหตุ 2)ปฏิบัติการเติมน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ได้ปริมาณน้ำสำรองมากที่สุด นำน้ำใต้ดินมาใช้แก้ปัญหาในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ ซึ่งน้ำใต้ดินมีปริมาณมากถึง 40,000 ล้าน ลบ.ม. 3) กำหนดแผนจัดสรรน้ำและพื้นที่เพาะปลูกฤดูแล้งให้สอดคล้องกับสถานการณ์เอลนีโญ ควบคุมการเพาะปลูกข้าวนาปรัง สร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรพร้อมเตรียมน้ำสำรองสำหรับพื้นที่ลุ่มต่ำรับน้ำนอง 4) จัดสรรน้ำให้เป็นไปตามลำดับความสำคัญที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด เพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญ 5) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ส่งเสริมพืชใช้น้ำน้อยในภาคการเกษตร ประหยัดการใช้น้ำของหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและประชาชน พร้อมทั้งส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมจัดการน้ำเสียตามหลัก 3R 6) เฝ้าระวังและแก้ไขคุณภาพน้ำ 7) เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการน้ำชุมชนและองค์กรผู้ใช้น้ำ
😎 สร้างการรับรู้ประชาชนสัมพันธ์ และ 9) ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงาน
นอกจากนี้ จะต้องเร่งสร้างความร่วมมือเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานในการบริหารจัดการน้ำให้มากขึ้น ตลอดจนปรับปรุงวิธีการอนุมัติงบประมาณให้ความช่วยเหลือให้รวดเร็วขึ้น สร้างเครือข่ายองค์กรผู้ใช้น้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาประยุกต์ใช้เพื่อการบริหารจัดการน้ำสัมฤทธิ์ผลครอบคลุมทุกพื้นที่ ที่สำคัญได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนบริหารจัดการน้ำล่วงหน้า 2 ปี ให้ครอบคลุมตั้งแต่ฤดูฝนปีนี้ ฤดูแล้งปี 2566-2567 ฤดูฝนปี 2567 จนถึงฤดูแล้งปี 2567-2568 ด้วย เพื่อที่จะเตรียมสำรองน้ำให้เพียงพอกับความต้องการรองรับสถานการณ์น้ำเอลนีโญที่จะเกิดขึ้ |