| นายกองเอก อดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี | ||
 |
||
| (ภาพชุดที่ 1) จังหวัดภูเก็ตจัดพิธี ถวายความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัดนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 นายกองเอก อดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานนำส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน และประชาชนในจังหวัดภูเก็ต ร่วมพิธีถวายความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ อาคารหอประชุมจังหวัดภูเก็ต ห้องประชุมมหิศรภักดี ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พิธีประกอบด้วยนายกองเอก อดุลย์ ชูทอง ประธานในพิธีฯ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพและถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร จากนั้นนำกล่าวถวายความจงรักภักดีโดยมีใจความว่า"ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทรงทราบฝ่าละอองพระบาทข้าพระพุทธเจ้า นายกองเอก อดุลย์ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยข้าราชการพลเรือน ตุลาการทหาร ตำรวจ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคีเครือข่ายของจังหวัดภูเก็ต และพสกนิกรชาวจังหวัดภูเก็ต ที่มาพร้อมกัน ณ ที่นี้ ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ ที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาใต้ฝ่าละอองพระบาทได้ทรงทุ่มเทอุทิศพระองค์ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ นานัปการ สนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงและเสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลายวาระ ทรงแบ่งเบาพระราชภารกิจด้วยพระวิริยะ อุตสาหะ เป็นคุณูปการแก่ประเทศชาติและอาณาประชาราษฎร์อย่างใหญ่หลวง แม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยพระวรกาย หรือทรงมีพระอาการประชวรอย่างไร ก็มิได้เป็นอุปสรรคขัดขวางต่อน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาในการอำนวยประโยชน์สุขเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ขจัดปัดเป่าเภทภัยให้แก่อาณาประชาราษฎร์ในทุกถิ่นที่ของผืนแผ่นดินไทย ก่อเกิดประโยชน์อันไพศาลแก่พสกนิกรชาวไทย ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และจะมุ่งมั่นน้อมนำแนวทางอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และพระราชดำรัสทั้งปวง ขับเคลื่อนขยายผลทุ่มเท สร้างสรรค์สิ่งที่ดีแก่ประเทศไทย เพื่อบังเกิดประโยชน์แก่ประชาชน ทำให้ประเทศชาติ มั่นคง ประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืนสืบไปและในวาระนี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานพระราชวโรกาสถวายพระพรชัยมงคล ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกตลอดจนพระเทวานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราช และพระบรมเดซานุภาพแห่งองค์สมเด็จพระบูรพกษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ โปรดอภิบาลรักษาใต้ฝ่าละอองพระบาท ให้เจริญด้วยจตุรพิธพรชัย พิพัฒนสวัสดิมงคล ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานทรงพระเกษมสำราญทุกทิพาราตรีกาล ปราศจากโรคาพาธ มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอจงสมดังพระราชหฤทัยทั่วถ้วนทุกประการ สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าปกกระหม่อมพสกนิกรชาวไทย ตลอดกาลนานเทอญ" โอกาสนี้ ผู้ร่วมพิธี ได้ร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเปล่งเสียง ทรงพระเจริญ พร้อมกัน 3 ครั้ง |
||
| ข้อมูลจาก :: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต [2567-02-20] | ||
| ข่าวอื่นๆ | ||
| >> ข่าวทั้งหมด | ||