วันนี้ ( 6 กันยายน 2561) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมพระพิทักษ์แกรนด์บอลลูน โรงแรมเมโทรโพลภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย ว่าที่ ร้อยตรี ดร.ประสงค์ สังขะไชย ประธานคณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จังหวัดภูเก็ต และนายสุทัศน์ แก้วพูล รองศึกษาธิการจังหวัดภูเก็ต รักษาการในตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัดภูเก็ต กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกฯ ร่วมแถลงข่าวการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัล "สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี" (Princess Maha Chakri Award) ครั้งที่ 3 นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เป็นรางวัลที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชานุญาตจัดตั้งรางวัลระดับนานาชาติขึ้น เพื่อเป็นเฉลิมพระเกียรติพระปรีชาด้านการศึกษา ที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อส่งเสริมการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนในระดับต่างๆ พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยคุณลักษณะสำคัญของความเป็นครู 4 ประการ ได้แก่ ความรอบรู้ การสอนดี มีคุณธรรมจรรยาบรรณ และมุ่งมั่นพัฒนา และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตตั้งนามรางวัลว่า รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี (Princess Maha Chakri Award) และมีพระราชานุญาตให้จัดตั้ง มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เพื่อเป็นองค์กรหลักในการวางแผนการดำเนินงานและพิจารณารางวัล โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นประธานกิตติมศักดิ์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงพระราชทานรางวัลแก่ครูผู้มีผลงานดีเด่น สร้างคุณประโยชน์ต่อการศึกษา และสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์ อย่างหาที่สุดมิได้
มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี (ม.ม.จ.) ได้กำหนดการคัดเลือกครู รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี หรือ Princess Maha Chakri Award ครั้งที่ 3 ปี 2562 เพื่อเชิดชูเกียรติครูดีเด่นในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วย ไทย มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา เมียนมา บรูไน และติมอร์-เลสเต รวม 11 ประเทศ ประเทศละ 1 รางวัล ดำเนินการทุกๆ 2 ปี โดยจะพระราชทานรางวัลครั้งที่ 3 ในปี 2562 แก่ครูผู้มีคุณสมบัติดังนี้ เป็นครูผู้สอนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสถานศึกษาของรัฐ เอกชน หรือองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น หรือครูนอกการศึกษา ปฏิบัติการสอนต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 15 ปี เป็นครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์ สร้างแรงบันดาลใจจนลูกศิษย์ประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นผู้มีคุณูปการต่อการศึกษา เป็นแบบอย่างทั้งทางจริยธรรมและทุ่มเทกับการสอน ผู้มีสิทธิ์เสนอชื่อ ได้แก่ องค์กรภาครัฐและเอกชน สถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สมาคม มูลนิธิ และองค์กรซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคล และศิษย์เก่า อายุ ไม่น้อยกว่า 25 ปี (ลูกศิษย์ 1 คน เสนอชื่อได้ 1 คน) โดย รางวัลครู รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ประจำปี 2562 ประกอบด้วย 1. ครูผู้มีคะแนนสูงสุด ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้รับรางวัลเหรียญทองรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เข็มเชิดชูเกียรติทองคำพระราชทาน โล่ประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัลจำนวน 10,000 เหรียญสหรัฐ 2. ครูผู้มีคะแนนลำดับที่ 2 และ 3 ได้รับ รางวัลคุณากร ได้รับรางวัลเหรียญเงินรางวัลมูลนิธิสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เข็มเชิดชูเกียรติพระราชทาน และเกียรติบัตร 3. ครูผู้มีคะแนนลำดับที่ 4 - 20 ได้รับ รางวัลครูยิ่งคุณ ได้รับรางวัล เหรียญทองแดง รางวัลมูลนิธิสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เข็มเชิดชูเกียรติพระราชทาน และเกียรติบัตร 4. ครูผู้ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการระดับจังหวัด จะได้รับ รางวัลครูขวัญศิษย์ ได้รับรางวัลเข็มเชิดชูเกียรติพระราชทาน และเกียรติบัตร
ว่าที่ ร้อยตรี ดร.ประสงค์ สังขะไชย ประธานคณะกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้จัดให้มีการคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จาก 11 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศติมอร์-เลสเต ที่มีความโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์ และมีคุณูปการต่อการศึกษา เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ และรับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ซึ่งที่ผ่านมามูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้จัดพิธีพระราชทานรางวัลมาแล้ว 2 ครั้ง ในครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 3 โดยกำหนดให้องค์กรและบุคคลเป็นผู้สรรหาและเสนอชื่อ ได้แก่ องค์กรภาครัฐและภาคเอกชนที่มีการคัดเลือกครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในระดับประเทศ , สถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน , สมาคม มูลนิธิ และองค์กรซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคล และมีภารกิจส่งเสริมการเรียนรู้ และลูกศิษย์ที่เป็นศิษย์เก่าอายุไม่น้อยกว่า 25 ปี ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ต กำหนดแผนการสรรหาและคัดเลือกครูฯ ตามสัดส่วนของจังหวัด จำนวน 1 คน ระหว่างเดือนกรกฎาคม ธันวาคม 2561 จากนั้นจะเสนอชื่อเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลางต่อไป
ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้มีนโยบายที่จะสร้างขวัญกำลังใจให้กับครูโดยได้กำหนดรางวัลครูประกายเพชรให้แก่ครูที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกระบวนการคัดเลือกโดยจะมีการคัดเลือกจากครูที่ได้รับการเสนอชื่อในโอกาสเข้ารับการคัดเลือกเพื่อเป็นครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลเจ้าฟ้ามหาจักรีของจังหวัดภูเก็ตด้วย
นายสุทัศน์ แก้วพูล รองศึกษาธิการจังหวัดภูเก็ต รักษาการในตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัดภูเก็ต กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกฯ กล่าวว่าการเสนอชื่อครูจะมาจาก 4 ช่องทางคือ 1. เสนอชื่อโดยสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. เสนอชื่อโดยองค์กรที่เป็นนิติบุคคลและมีภารกิจส่งเสริมการเรียนรู้ 3. เสนอชื่อโดยศิษย์เก่า อายุ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งทั้ง 3 ช่องทางจะเสนอชื่อไปยังศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการคัดเลือกในแต่ละจังหวัด ทั้ง 77 แห่ง และช่องทางที่ 4. องค์กรภาครัฐและเอกชน จำนวน 7 องค์กร เสนอชื่อมายังคณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง จากนั้นจะมีการคัดเลือกและลงพื้นที่ของคณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง และคณะกรรมการมูลนิธิฯ เพื่อพิจารณาครูผู้สมควรได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เพียง 1 คนของประเทศไทยเพื่อเข้ารับพระราชทานรางวัล และเนื่องจากการคัดเลือกมาจากสุดยอดครูของแต่ละจังหวัด มูลนิธิฯ จึงมอบรางวัลให้กับครูขวัญศิษย์ จำนวน 145 คน รางวัลครูยิ่งคุณ 17 คน และรางวัลคุณากร 2 คน จึงขอเชิญชวนลูกศิษย์ทั่วประเทศ สถานศึกษา และหน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันเสนอชื่อครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เพื่อให้สังคมร่วมกันขอบคุณและเห็นคุณค่าครูผู้ทุ่มเทเปลี่ยนแปลงชีวิตลูกศิษย์ตลอดทั้งชีวิตของความเป็นครู โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.PMCA.or.th
ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตจะเปิดรับการเสนอชื่อและให้ส่งเอกสารหลักฐานภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2561 ผู้สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานคัดเลือกรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จังหวัดภูเก็ต สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดภูเก็ต เลขที่ 4/4 ถนนแม่หลวน ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต หรือโทรศัพท์หมายเลข 076 211 428-9 ต่อ 15
..สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต /ข่าว
สำนักงานจังหวัดภูเก็ต /ภาพ
|