วันนี้ (2 เม.ย.62) ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอนุรักษ์ พัฒนา รถโพถ้อง จังหวัดภูเก็ต และปล่อยขบวนรถโพถ้องเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวให้ผู้เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไปได้รับรู้และใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางต่อไป โดยมีนางศิรวี วาเล๊าะ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต นายบัญญัติ คันธา ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ผู้ให้การสนับสนุนทั้งจากภาครัฐ เอกชน นักวิจัยที่ปรึกษาโครงการของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย และกลุ่มผู้ประกอบการรถโพถ้อง เข้าร่วมในพิธี นายบัญญัติ คันธา ขนส่งจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว ภายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตจะเดินทางด้วยรถเป็นหลัก ทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนบุคคล และรถโดยสารสาธารณะทั้งแบบประจำทางและไม่ประจำทาง และรถโพถ้องนับเป็นรถที่มีความสำคัญกับระบบการคมนาคมขนส่งและอยู่คู่กับการเดินทางของคนในจังหวัดภูเก็ตมานาน ตั้งแต่ราวปี พ.ศ.2510 และได้ถูกพัฒนามาเป็นรถโดยสารประจำทางจนกลายเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต โดยรถโพถ้องที่ให้บริการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตนั้น มีหลากหลายเส้นทางทั้งที่มีจุดต้นทางปลายทางอยู่ระหว่างจังหวัดกับอำเภอ หรือระหว่างอำเภอกับอำเภอภายในจังหวัดภูเก็ต โดยมีเส้นทางที่สำคัญและมีประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้บริการจำนวนมาก เช่น เส้นทางภูเก็ต-ท่าฉัตรไชย,ภูเก็ต กมลา, ภูเก็ต-กะรน-หาดกะตะน้อย และเส้นทางภูเก็ต-อ่าวฉลอง
สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต จึงได้นำแนวคิด Smart Bus Smart Passengers ซึ่งได้ประสบความสำเร็จมาแล้วในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการรถบัสโดยสารประจำทางมาขยายผลและต่อยอดใน โครงการอนุรักษ์ พัฒนา รถโพถ้อง จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ประชาชน นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบการเดินทางของรถโดยสารประจำทาง(รถโพถ้อง) ผ่านสมาร์ทโฟนของตนเองได้ และเพื่ออนุรักษ์รถโพถ้อง ตลอดจนยังช่วยให้ผู้ประกอบการขนส่งมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการที่มีผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอันจะทำให้มีงบประมาณที่จะมาปรับปรุงตัวรถและการให้บริการให้ดีอยู่ตลอดเวลาด้วย
การดำเนินงานตามโครงการนี้ สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ตได้นำแนวทางของนโยบายการทำงานแบบ ประชารัฐ มาใช้ในการขับเคลื่อนโดยการขอความร่วมมือและบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ จนเกิดผลสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ ด้านงบประมาณได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิพัฒนาป่าตอง ในการดำเนินโครงการทั้งในส่วนอุปกรณ์ GPS และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าถึงการใช้งานแอพพลิเคชั่นที่นำมาใช้ ส่วนด้านเทคโนโลยีได้รับความร่วมมือและบูรณาการกับบริษัท แท็กซี่-บีม จำกัด ในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น Bus Beam ซึ่งช่วยให้ผู้โดยสารสามารถทราบตำแหน่งของรถโดยสารประจำทาง ทั้งรถโพถ้องและรถบัสเส้นทางต่างๆ ที่เข้าร่วมได้แบบ Real Time ผ่านสมาร์ทโฟน ทั้งในระบบ Android และระบบ IOS โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนการติดตั้งอุปกรณ์และสัญญาณ GPS ภายในรถโพถ้องจากบริษัท อันดามัน แทร็คกิ้ง จำกัด ในราคาพิเศษ
ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางด้วยรถโพถ้องเข้าร่วมโครงการและทดสอบการนำระบบไปใช้แล้ว จำนวน 1 เส้นทาง คือ บริษัท เดินรถ ภูเก็ต จำกัด ในเส้นทางรถหมวด 4 ภูเก็ต-ท่าฉัตรไชย ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลัก ที่มีประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา ชาวต่างชาติที่เข้ามาประกอบอาชีพและนักท่องเที่ยวใช้บริการเป็นจำนวนมาก โดยเบื้องต้นได้มีการนำรถในเส้นทางดังกล่าว เข้ารับการติดตั้งอุปกรณ์และทดสอบระบบแล้ว จำนวน 20 คัน ซึ่งในอนาคตตนคาดหวังว่าถ้าเราช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ใช้บริการก็จะทำให้ประชาชนสะดวก เจ้าของรถมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้มีการขยายเพิ่มจาก 20 คัน เป็น 70 คัน ในส่วนที่เหลือในเส้นทางดังกล่าว แล้วรวมทั้งเส้นทางอื่นๆ คือเส้นทางภูเก็ต-ป่าตอง ยังมีรถโพถ้องอยู่ ก็จะขยายไป แล้วก็อาจจะเป็นภูเก็ตไปยังฉลอง ในหาน ก็เป็นเส้นทางใหญ่ๆ ที่ตนเล็งไว้แล้ว ซึ่งถ้าเราพัฒนาตรงนี้ได้ก็จะเป็นประโยชน์ในภาพรวมทั้งหมด
สืบเนื่องจากว่าภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวมีชาวต่างชาติมาเยือนจำนวนมาก และรถโพท้องก็เป็นอัตลักษณ์หนึ่งของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งรถโพถ้องจะมีลักษณะการใช้งานเป็น 2 ส่วนคือ ใช้งานเป็นรถวิ่งประจำทาง กับผู้ประกอบการหรือสถานที่ต่างๆ นำไปใช้บริการให้กับลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวของตัวเอง แต่ในส่วนของรถโดยสารประจำทาง พิจารณาดูแล้วว่าเราน่าจะมีการอนุรักษ์ตรงนี้ไว้ การที่จะอนุรักษ์ให้ยั่งยืนได้ก็ต้องทำให้ทันสมัยด้วย ในยุคของจังหวัดภูเก็ตเป็นสมาร์ทซิตี้เลยนำโครงการที่ทำไว้เดิมมาต่อยอด โครงการที่ทำไว้เดิมคือพัฒนาการเข้าถึงรถประจำทางผ่านแอพพลิเคชั่น Bus Beam การที่เราใช้ในเส้นทางจากสนามบิน 3 เส้นทาง คือเส้นทางสนามบิน-เมืองภูเก็ต,สนามบิน-ป่าตอง และสนามบิน-เชิงทะเล-ป่าตอง และราไวย์ ก็เอามาใช้กับรถโพถ้องด้วย นายบัญญัติ กล่าว
|