วันนี้ (21 พฤษภาคม 2562) ที่ห้องไม้ขาว ชั้น 1 อาคารตำรวจภูธรภาค 8 อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พลตำรวจโทพงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นประธานในการแถลงผลปฎิบัติงานตามแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ประจำปี 2562 ตาปี 31/2561 ระหว่างวันที่ 20-30 เมษายน 2562 และระหว่างวันที่ 11-19 พฤษภาคม 2562 โดยมีรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดและผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 8 และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเข้าร่วม สำหรับการดำเนินการดังกล่าว ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดทำแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ประจำปีงบประมาณ 2562 พิทักษ์ภัยให้กับประชาชน 2562 เพื่อให้หน่วยนำไปดำเนินการออกแผนรองรับการขับเคลื่อนหน่วยงานในสังกัดตำรวจภูธรภาค 8 โดยพลตำรวจโทพงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้จัดทำแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ประจำปีงบประมาณ 2562 ตาปี 31 / 2561 ขึ้นรองรับและกำหนดแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เพื่อบูรณาการและเสริมสร้าง การดำเนินการตามแผนให้สอดคล้องอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ตำรวจภูธรจังหวัดและสถานีตำรวจในสังกัดถือปฏิบัติในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ โดยนำแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงานตามตัวชี้วัด (KPI) มาใช้ร่วมทั้งการจัดทำโครงการต่างๆเพื่อให้ครอบคลุมทุกมิติตลอดจนการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายและติดตามจับกุมสิ่งของผิดกฎหมาย อาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ยาเสพติดและบุคคลตามหมายจับ
ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 ได้สั่งการให้หน่วยดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่เดือนละ 2 ห้วงเวลา โดยกำหนดเป้าหมาย ได้แก่ อาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ยาเสพติด สถานบริการและแหล่งอบายมุขทุกประเภท ตามสถานภาพอาชญากรรมของพื้นที่ ดังนี้ 1. สถานีตำรวจระดับผู้กำกับการ เป็นหัวหน้าสถานี (กลุ่มที่ 1) กำหนด 20 เป้าหมายต่อครั้ง 2.สถานีตำรวจระดับผู้กำกับการเป็นหัวหน้าสถานี (กลุ่มที่ 2) กำหนด 15 เป้าหมายต่อครั้ง 3. สถานีตำรวจระดับสารวัตรใหญ่ เป็นหัวหน้าสถานี กำหนด 10 เป้าหมายต่อครั้ง 4. สถานีตำรวจระดับสารวัตรเป็นหัวหน้าสถานีกำหนด 5 เป้าหมายต่อครั้ง
สำหรับผลการปฏิบัติของหน่วยระหว่างวันที่ 20-30 เมษายน 2562 และระหว่างวันที่ 11 - 19 พฤษภาคม 2562 ประกอบด้วย การปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย จำนวน 2,783 เป้าหมาย พบการกระทำผิด จำนวน 835 เป้าหมาย ไม่พบการกระทำผิด จำนวน 1,125 เป้าหมาย, ผลการปฏิบัติของตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมสิ่งผิดกฎหมาย จำนวน 2,205 ราย ผู้ต้องหา จำนวน 1,660 รายแบ่งประเภท คือ พระราชบัญญัติยาเสพติด จำนวน 1,143 ราย ผู้ต้องหา 1,488 คน ของกลาง ได้แก่ ยาบ้า จำนวน 310,964 เม็ด, ยาไอซ์ จำนวน 2,339.76 กรัม, เฮโรอีน จำนวน 0.84 กรัม, กัญชาแห้ง จำนวน 681 กรัม และพืชกระท่อม จำนวน 15,108.90 กรัม, พระราชบัญญัติอาวุธปืน จำนวน 212 ราย ผู้ต้องหา จำนวน 217 คน ของกลาง ได้แก่อาวุธปืนธรรมดา มีทะเบียน/ไม่มีทะเบียน จำนวน 197 กระบอก กระสุน 497 นัด ประกอบด้วย ปืนลูกซองสั้น จำนวน 19 กระบอก ปืนลูกซองยาวจำนวน 15 กระบอก ปืนยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 53 กระบอก ปืนยาวอัดลม จำนวน 17 กระบอก ปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 19 กระบอก ปืนพกสั้นขนาด .32 จำนวน 6 กระบอก ปืนพกสั้นขนาด .357 จำนวน 9 กระบอก ปืนพกสั้นขนาด . 9 มม จำนวน 22 กระบอก ปืนพกสั้นขนาด . 45 จำนวน 2 กระบอก ปืนพกสั้น ขนาด .22 จำนวน 31 กระบอกอาวุธสงครามและวัตถุระเบิด, มีคดีค้างเก่า จำนวน 136 ราย ผู้ต้องหา 136 คน, พระราชบัญญัติการพนัน จำนวน 126 ราย ผู้ต้องหา จำนวน 180 คน, พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง จำนวน 40 ราย ผู้ต้องหา จำนวน 40 คน และคดีอื่นๆ จำนวน 248 ราย ผู้ต้องหาจำนวน 252 คน
พลตำรวจโทพงษ์วุฒิ กล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่าย และหน่วยสนับสนุนที่ทุ่มเทเสียสละในการปฎิบัติภารกิจการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายในครั้งนี้ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว จนสัมฤทธิ์ผลเป็นที่น่าพอใจ และขอขอบคุณสื่อมวลชนที่คอยสะท้อนผลการปฏิบัติไปให้ประชาชนได้รับทราบ รวมทั้งสนับสนุนข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์มาโดยตลอด
|