| จังหวัดภูเก็ตประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือ ป้องกันและแก้ไขปัญหากรณีภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงปี 2562 | ||
 |
||
|
วันนี้ (31 ก.ค. 62) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมป้องกันและแก้ไขปัยหากรณีภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงปี 2562 จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ตและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายภัคพงศ์ กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วง ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 จนถึงปัจจุบัน ประกอบกับการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) พบว่าช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน 2562 ปริมาณฝนที่ตกจะมีปริมาณน้อยกว่าค่าปกติ และในบางพื้นที่จะมีสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง ซึ่งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้มีข้อสั่งการให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ทั้งนี้ ตามข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทยซึ่งได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้อำนวยการจังหวัด ทุกจังหวัด ลงวันที่ 15 มีนาคม 2562 ให้มีการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2562 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยให้จังหวัดดำเนินการ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของประชาชนในมิติต่างๆ โดยเฉพาะกรณีการขาดแคลนน้ำ ทั้งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างเป็นเอกภาพ อีกทั้ง กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ดำเนินการตามแผนการแจกจ่ายน้ำในเขตรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ให้แจกจ่ายเข้าถึงประชาชนผู้ใช้น้ำให้ได้มากที่สุดตลอดจนกำชับฝ่ายปกครอง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่สร้างการรับรู้ และทำความเข้าใจถึงแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง อย่าให้เกิดเงื่อนไขในการสร้างความขัดแย้งจากกรณีการขาดแคลนน้ำเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
อีกทั้ง กระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 ให้จังหวัดถือปฏิบัติในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเคร่งครัด และให้ดำเนินการในระยะเร่งด่วนใน 3 เรื่องคือ 1) ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการติดตามสภาวะอากาศและการบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิดทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) กรมชลประทาน ตลอดจนหน่วยทหารในพื้นที่ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์น้ำ การรณรงค์การใช้น้ำอย่างประหยัด ตลอดจนให้ทราบถึงความห่วงใย ของรัฐบาล และการบูรณาการความช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐ 2) สำรวจและจำแนกพื้นที่เสี่ยงภัยให้ชัดเจน ทั้งพื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค พื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร โดยให้การประปาส่วนภูมิภาค ประปาหมู่บ้านขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตรวจสอบแหล่งน้ำดิบต้นทุน หากพบว่าจุดใดเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ ไม่สามารถผลิตและดำเนินการแจกจ่ายน้ำให้กับประชาชนได้ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบริหารจัดการเครื่องจักรกลสาธารณภัยของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตที่เข้ามาสนับสนุนในพื้นที่ รวมทั้งเครื่องจักรกลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน หน่วยทหาร เพื่อจัดให้มีรถบรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำดิบในการผลิตเป็นน้ำประปาให้เพียงพอ และแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนและภาชนะเก็บกักน้ำประจำหมู่บ้าน และ3) ให้จังหวัดรายงานสถานการณ์ และผลการปฏิบัติในการให้ความช่วยเหลือประชาชนให้กระทรวงมหาดไทย ผ่านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ประมวลและวางแผนของรัฐบาลเชิงนโยบายต่อไป
ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตพบว่าประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงทำให้อ่างเก็บน้ำหลักคืออ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ อ่างเก็บน้ำบางวาดและอ่างเก็บน้ำคลองกระทะ มีปริมาณน้ำลดลงเป็นอย่างมาก จังหวัดภูเก็ตจึงมีการเตรียมแผนในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนโดยการประชุมในวันนี้เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมแผนงานในการให้ความช่วยเหลือประชาชนตามข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทยให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ .สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต/ ข่าว / ภาพ |
||
| ข้อมูลจาก :: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต [2562-07-31] | ||
| ข่าวอื่นๆ | ||
| >> ข่าวทั้งหมด | ||