วันนี้ (1 ตุลาคม 2562) ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนางสิทธินีย์ ทวิพัฒน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต, นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมอ๊ามหรือศาลเจ้า ณ ศาลเจ้ากะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายประเสริฐ ขาวกิจไพศาล ประธานศาลเจ้ากะทู้ พร้อมด้วยคณะกรรมการมูลนิธิหล่ายถู่ต่าวโบ๊เก้งศาลเจ้ากะทู้ และประชาชนในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตพร้อมคณะได้ไหว้พระขอพรสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล และยังได้มอบข้าวสารร่วมสมทบทำบุญแก่ทางศาลเจ้าเพื่อใช้หุงแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในช่วงประเพณีถือศีลกินผัก นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและคณะได้ร่วมรับประทานอาหารเจร่วมกับคณะกรรมการศาลเจ้า และพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ตเนื่องในประเพณีถือศีลกินผักประจำปี 2562 นอกจากนี้ยังตรวจเยี่ยมโรงครัวและให้กำลังแม่ครัวที่ทำหน้าที่ประกอบอาหาร
สำหรับศาลเจ้ากะทู้ หรือ อ๊ามกะทู้ เดิมเรียกว่า ศาลเจ้าในทู ถือเป็นจุดกำเนิดของประเพณีถือศีลกินผักในมณฑลภูเก็ต เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไป ตามตำนานครั้งโบราณกาล เล่าว่า ได้มีคณะงิ้วเดินทางมาจากเมืองจีน เพื่อเปิดการแสดงที่กะทู้ แต่แล้วผู้แสดงในคณะงิ้วเกิดเจ็บป่วยขึ้น จึงคิดได้ว่าได้ละเลยประเพณีการถือศีลกินผัก ซึ่งเคยกระทำเป็นประจำทุกปี จึงได้ประกอบพิธีกินผักขึ้น จากนั้นโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็หายไป จนหมดสิ้น ชาวบ้านกะทู้เกิดความเลื่อมใสจึงศรัทธา จัดให้มีพิธีถือศีลกินผักต่อเนื่องกันมา จากนั้นไม่นานประเพณีถือศีลกินผักก็แพร่หลายมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาหลวงอำนาจนรารักษ์ (ต้นตระกูลตัณฑเวทย์) ซึ่งเป็นนายเหมืองใหญ่ และเป็นผู้นำชุมชนบ้านกะทู้ได้ส่งคนไปนำเอา เหี่ยวเอี้ยน หรือขี้เถ้าธูปและกระถางธูปจากมณฑลกังใส ประเทศจีน มาไว้ที่ศาลเจ้ากะทู้ เพื่อให้พิธีถือศีลกินผักมีความถูกต้องสมบูรณ์ ศาลเจ้ากะทู้จึงได้ชื่อว่าเป็นจุดกำเนิดของประเพณีถือศีลกินผักบนเกาะภูเก็ต ซึ่งจากอดีตจนถึงปัจจุบันนับเวลาได้ 194 ปีแล้วที่ประเพณีถือศีลกินผักอยู่คู่กับจังหวัดภูเก็ตสืบมา...//
|