วันนี้ (3 ธันวาคม 2562) เวลา 11.00น. ที่ เตาเผาขยะเทศบาลนครภูเก็ต ด่านศุลกากรภูเก็ต นำโดย นางสุทัศนีย์ สุภาพันธ์ นายด่านศุลกากรภูเก็ต นายณรงค์ สนใจ หัวหน้าฝ่ายบริการศุลกากรที่ 1,นางสาวจงกลวรรณ ลิ้นสงวน หัวหน้าฝ่ายควบคุมและตรวจสอบทางศุลกากร,นายวรเทพ ลิ่มภัทรวงศ์ นิติกรปฏิบัติงาน(หัวหน้างานคดี)และคณะกรรมการทำลายของกลาง ด่านศุลกากรภูเก็ต ได้นำของกลางในคดีที่ถึงที่สุดแล้วและของกลางในคดีทั้งหมด 89 คดี เพื่อทำลายของกลางทั้งหมด แยกเป็น คดีที่เป็นของกลางประเภทละเมิดลิขสิทธิ์ และทรัพย์สินทางปัญญาประเภทสินค้าลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้า เช่น รองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า หมวก เครื่องสำอาง ชุดกีฬา กางเกงชั้นในชาย ซึ่งเป็นของต้องห้ามนำเข้าและเป็นของอันพึงต้องริบตามนัยมาตรา 166 และมาตรา 167แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560จำนวน 55คดี จำนวน 5,312 ชิ้น คดี ที่เป็นของกลางประเภทบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ายาสูบชนิดยาเส้นปรุง(บารากู่)อุปกรณ์เสพบารากู่ จำนวน 34 คดี จำนวน 384 ชิ้น สรุปจำนวนคดี รวมทั้งสิ้น 89 คดี ปริมาณสินค้า รวมทั้งสิ้น 5,696 ชิ้น มูลค่ารวมภาษีอากร โดยประมาณ 1,908,500 บาท
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการคุ้มครองและการบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้านโยบายกรมศุลกากร โดย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร ,นายชูชัย อุดมโภชน์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และนายยุทธนาพูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 4 สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเข้มงวดกวดขัน ดำเนินการอย่างเคร่งครัดในการป้องกันและปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา และเร่งรัดการจำหน่ายของกลาง ตามระเบียบปฏิบัติว่าด้วยวิธีการจำหน่ายของกลาง.
|