ภูเก็ต ร่วมฝึกเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID19) ระลอกที่ 2
วันนี้ (17 ส.ค. 63) เวลา 09.00 น. ที่ห้องคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมทางไกล ระบบ วีดิโอ คอนเฟอร์เรนท์ เตรียมการฝึก พร้อมรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส covid-19 ระลอกที่ 2 โดยมี พลเอกณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิด ฯ ณ ศาลาว่าการกลาโหม กระทรวงกลาโหม กรุงเทพฯ เพื่อทดสอบแผนและแนวทางการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระดับต่างๆ ทดสอบการจัดสรรและบริหารทรัพยากรทางการแพทย์ในภาวะวิกฤตด้านการสาธารณสุขกรณีมีผู้สงสัยติดเชื้อหรือผู้ป่วยจำนวนมาก รวมทั้งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านทรัพยากรทางการแพทย์ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกลุ่มจังหวัด ในรูปแบบการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ (Table Top Exercise) และการฝึกซ้อมเฉพาะหน้าที่ (Functional Exercise) ภายใต้สถานการณ์การฝึกฯ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 2 ซึ่งส่งผลต่อการท่องเที่ยว นิคมอุตสาหกรรม และแรงงานต่างด้าวในจังหวัดกลุ่มเสี่ยง โดยในช่วงบ่าย เวลา 13.30 น. ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตได้มีการซ้อมแผนบนโต๊ะ ณ ห้องปฏิบัติการ POC บริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ตามโจทย์การจำลองสถานการณ์ มีการแพร่ระบาดของ covid 19 ภายหลังจากที่รัฐบาลได้ผ่อนปรนและจัดกิจกรรมไทยเที่ยวไทยเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหยุดยาวนักท่องเที่ยวชาวไทยจึงหลั่งไหลไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าพัก ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ได้ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังสำนักงานท่องเที่ยวฯ กรณีที่โรงแรม ร้านอาหาร เรือท่องเที่ยว รถสาธารณะตามสถานที่ต่างๆไม่มี เจลล้างมือ ไว้บริการนักท่องเที่ยว รวมทั้ง เจ้าหน้าที่บริการ ไม่ใส่หน้ากากอนามัย จึงถ่ายภาพและนำโพสต์ลงในสื่อสังคมออนไลน์ จนเกิด ดราม่า ขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์ประชาชนในท้องถิ่นเกิดความหวาดระแวง ต่อต้านนักท่องเที่ยว มีการติดป้ายประท้วงด่าทอ จนเกิดความรุนแรงขึ้น
จากโจทย์ สถานการณ์ดังกล่าว ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เตรียมแนวทางการจัดทำแผนเผชิญเหตุ แนวทางการดำเนินการต่อบุคคลองค์กรที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการของกรมควบคุมโรค แนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาในมิติต่างๆที่อาจเกิดขึ้นแนวทางการติดตามสอบสวนและควบคุมโรค กรณีพบผู้ติดเชื้อจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารความเสี่ยงการต่อต้านข่าวลือข่าวปลอม เพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่มีการบูรณาการทำงานร่วมกันเตรียมความพร้อมรับมือในทุกมิติ หากเกิด เหตุการณ์ หรือ การระบาด ระลอก 2 ขึ้นในพื้นที่ |