| นาย วงศ์กร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานในพิธีเปิดการการอบรมเชิงปฏิบัติการการงานสมัชชาเครือข่ายสวัสดิการชุมชนภาคใต้ และ สมัชชาสวัสดิการชุมชนจังหวัดภูเก็ต | ||
 |
||
| ภูเก็ตจัดอบรมเชิงปฏิบัติการการงานสมัชชาเครือข่ายสวัสดิการชุมชนภาคใต้ และ สมัชชาสวัสดิการชุมชนจังหวัดภูเก็ต 10 ปี พลังเครือข่ายสวัสดิการชุมชน เพื่อพัฒนาที่ยั่งยืน
วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2563 ณ ห้องประชุมไวท์เฮาส์ โรงแรม โบ๊ทลากูน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นาย วงศ์กร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานในพิธีเปิดการการอบรมเชิงปฏิบัติการการงานสมัชชาเครือข่ายสวัสดิการชุมชนภาคใต้ และ สมัชชาสวัสดิการชุมชนจังหวัดภูเก็ตโดยมีนางวารุณี สกุลรัตนธาดา ประธานเครือข่ายองค์กรสวัสดิการชุมชนจังหวัดภูเก็ต ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่และสมาชิกจากจังหวัดต่างๆในภาคใต้เข้าร่วม
นางวารุณี กล่าวว่า ในการขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตและชุมชนเข้มแข็งที่เริ่มและดำเนินการโดยมีองค์กรชุมชนเป็นแกนหลักในการพัฒนาได้ดำเนินการมาต่อเนื่องอย่างยาวนานต้องผ่านอุปสรรคและความท้าทายมากมายสำเร็จบ้างยังไม่สำเร็จบ้างเรื่องหนึ่งที่มีการดำเนินการมาเกือบ 20 ปีและมีความก้าวหน้ามากคือสวัสดิการชุมชนซึ่งเริ่มต้นจากชุมชนฐานราก ได้เห็นความเหลื่อมล้ำความไม่เป็นธรรมในสังคมก่อให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจที่ประชาชนไม่มีสวัสดิการที่ดีเหมือนเจ้าหน้าที่รัฐแต่เมื่อผ่านประสบการณ์การพัฒนาทำให้เปลี่ยนความคิดมาหาแนวทางการช่วยเหลือตนเองช่วยกันเองช่วยสังคมโดยฟื้นฟูระบบการช่วยเหลือกันของสังคมไทยในอดีตมาปรับใช้ในรูปแบบกองบุญและเริ่มมีการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนนำร่องถอดบทเรียนและขยายผลไปทั่วประเทศจนได้รับการตอบรับจากคนในชุมชนอย่างดีต่อมาได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐยกระดับเป็นนโยบายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นโยบายของรัฐบาลและแนวทางการปฏิรูปประเทศด้านสังคมตามลำดับที่สำคัญคือสวัสดิการชุมชนได้รับการรับรองให้เป็นสิทธิชุมชนตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560 ตามมาตรา 43 (4) การทำงานสวัสดิการชุมชนจึงเปลี่ยนจากการทำงานกันเองของชุมชนและสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนมาทำงานร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจึงทำให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับมากขึ้นแต่มีความท้าทายมากขึ้นที่จะพิสูจน์ให้เห็นเชิงประจักษ์ว่าสวัสดิการชุมชนตอบโจทย์การพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนและชุมชนและตอบสนองต่อนโยบายการพัฒนาของชาติในการขับเคลื่อนการพัฒนาสวัสดิการชุมชนไปข้างหน้าทางเครือข่ายสวัสดิการชุมชนทุกภาคได้ร่วมกันวางแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากองทุนสวัสดิการชุมชนห้าปีข้างหน้าโดยจะใช้สวัสดิการชุมชนสร้างโอกาสและความเสมอภาคในสังคมมีเป้าหมายให้กองทุนสวัสดิการชุมชนเป็นกลไกล กลางจัดสวัสดิการในพื้นที่และสวัสดิการชุมชนเป็นระบบหนึ่งของสวัสดิการสังคมซึ่งมีแผนว่าจะต้องพัฒนาคุณภาพกองทุนระดับตำบลสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งสร้างองค์ความรู้และการสื่อสารรวมทั้งผลักดันนโยบายโดยเฉพาะพระราชบัญญัติส่งเสริมระบบสวัสดิการของชุมชนจังหวัดภูเก็ตมีประชากรทั้งหมดกว่า 1,200,000 คนเป็นประชากรแฝง 800,000 คนและเป็นคนในพื้นที 420,000 คนรายได้หลักของจังหวัดภูเก็ตมาจากธุรกิจการท่องเที่ยว 98% แต่ไม่ได้ทำให้คนในจังหวัดภูเก็ตกว่า 420,000 คนเป็นผู้ที่มีฐานะดีทั้งหมดแต่ตรงกันข้ามประชากรอีก 200,000 คนยังเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยและอีกจำนวนกว่า 100,000 คนอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมแบบรวยกระจุกจนกระจายกองทุนสวัสดิการชุมชนในจังหวัดภูเก็ตจึงได้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2548 เพื่อทำให้คนเหล่านี้ได้เข้าถึงระบบสวัสดิการของชุมชนอย่างเท่าเทียมด้วยการสมทบวันละ 1 บาทและจัดตั้งกองทุนขอบคุณทั้ง 18 พื้นที่ในปี 2553 ปัจจุบันมีจำนวนสมาชิก 15,044 คนจำนวนเงินกองทุนปัจจุบัน 27,550,259 . 13 บาทจำนวนผู้ที่ได้รับสวัสดิการแล้ว 18,785 คนจำนวนเงินที่จ่ายสวัสดิการ 33,195,448 บาท นางวารุณี กล่าวต่อไปว่า สำหรับทิศทางการขับเคลื่อนงานสวัสดิการชุมชนจังหวัดภูเก็ตประกอบด้วยการเสริมสร้างบทบาทและความสามารถให้กองทุนสวัสดิการชุมชนเป็นกลไกในการจัดสวัสดิการในพื้นที่ , การพัฒนาศักยภาพเครือข่ายสวัสดิการชุมชน ,การพัฒนาระบบข้อมูลองค์ความรู้และเครือข่ายการเรียนรู้สวัสดิการชุมชน c]tdki พัฒนานโยบายสวัสดิการชุมชนให้เป็นระบบสวัสดิการสังคมในพื้นที่ ดังนั้นการที่กองทุนสวัสดิการชุมชนจะก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จเป็นที่พึ่งของคนในชุมชนอย่างยังยืนจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนความร่วมมือจากคนในชุมชนและทุกภาคส่วนมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสังคมต่อไป |
||
| ข้อมูลจาก :: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต [2563-09-01] | ||
| ข่าวอื่นๆ | ||
| >> ข่าวทั้งหมด | ||