| นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตครั้งที่ 50/2563 | ||
 |
||
| จังหวัดภูเก็ตประชุม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตครั้งที่ 50/2563 ขอความร่วมประชาชนใน หมู่บ้าน/ชุมชน ช่วยกันเฝ้าระวัง สอดส่อง หากพบหรือมีบุคคลต้องสงสัยว่าเป็นแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพื่อดำเนินการต่อไป
วันนี้ 18 กันยายน 2563 เวลา 10:00 น.ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตนายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตครั้งที่ 50/2563 สำหรับสถานการณ์การควบคุมโรคติดต่อ Covid-19 ของจังหวัดภูเก็ตในขณะนี้เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยภูเก็ตไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเวลา 115 วัน จากนั้น นายมนัส หนูรักษ์ ผู้แทนหัวหน้าสำนักงานจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ทุกจังหวัดบูรณาการส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ติดตามค้นหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบกลับเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ทั้งในสถานประกอบการและสถานที่ทำงานที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว หากพบให้ดำเนินการตามระเบียบกฎหมายและมาตรการทางด้านสาธารณสุข ขอให้ประชาชนใน หมู่บ้าน/ชุมชน ช่วยกันเฝ้าระวัง สอดส่อง หากพบหรือมีบุคคลต้องสงสัยว่าเป็นแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพื่อดำเนินการต่อไป โอกาสนี้ที่ประชุมได้สรุปการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 เพื่อให้คณะกรรมการโรคติดต่อได้รับทราบและปฏิบัติตามเพื่อร่วมกันฟื้นฟูการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ตโดยมีสาระสำคัญดังนี้ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 คณะรัฐมนตรี อนุมัติในหลักการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist VISA (STV) คุณสมบัติของคนต่างด้าว ☀️เป็นบุคคลต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางมาพำนักระยะยาว (Long Stay) ภายในประเทศไทย ☀️ยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ประกาศใช้ภายในประเทศไทย และตกลงยินยอมกักตัวในห้องพักจำนวน 14 วัน (ALSQ) ☀️มีหลักฐานสถานที่พักอาศัยระยะยาวภายในประเทศไทย (Long Stay) อาทิ ✅หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมที่พัก (ALSQ) หรือโรงพยาบาลที่พัก (AHQ) ภายในประเทศไทย โรงแรมที่พักที่เป็นสถานที่กักตัว (ALSQ) หรือโรงพยาบาลที่พัก (AHQ) ตามระยะเวลาที่ประสงค์จะพำนักระยะยาว ✅หลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ -หลักฐานการชำระเงินค่าโรงแรมที่พัก ที่จะใช้เป็นที่พักหลังจากออกจาก (Long Stay) ภายในประเทศไทย -หลักฐานสำเนาโฉนดห้องชุดของที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลต่างด้าวหรือบุคคลในครอบครัวของบุคคลต่างด้าว -หลักฐานการเช่าที่พักประเภทคอนโดมิเนียมหรือบ้านพัก -หลักฐานการชำระเงินดาวน์ของบุคคลต่างด้าวในการซื้อหรือเช่าที่พัก อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมที่บุคคลต่างด้าวสามารถซื้อได้ตามกฎหมาย โดยบุคคลต่างด้าวจะต้องผ่านการดำเนินการตามการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโค โรนา 2019 (โควิด-19) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมีสิทธิขอรับการตรวจลงตรา ประเภทนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ Special Tourist Visa (STV) โดยเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ครั้งละ 2,000 บาท ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลา 90 วัน โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 ประเทศไทยสามารถบริหาร จัดการและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 จนได้รับการจัดอันดับประเทศที่มี ความปลอดภัยเป็นอันดับ 1 ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง และในปัจจุบันประเทศไทยไม่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ภายในประเทศไทย ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้หลักจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ไม่น้อยกว่า 2 ล้านล้านบาท เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ภายในประเทศขาดรายได้และได้รับผลกระทบในทุกภาคส่วน รัฐบาลจึงมีนโยบายที่จะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวชาว ต่างประเทศเดินทางเข้ามาพำนักระยะยาว (Long Stay) ในพื้นที่ปิดที่สามารถควบคุมป้องกันการ แพร่ระบาดได้ |
||
| ข้อมูลจาก :: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต [2563-09-21] | ||
| ข่าวอื่นๆ | ||
| >> ข่าวทั้งหมด | ||