จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัทไทยจัดการลองสเตย์ จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเตรียมความพร้อมการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาพักระยะยาว (LONG STAY) ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต....//
(18 กันยายน 2563) ที่ ศูนย์ประชุมอังสนา คอนเวนชั่น แอนด์ เอ็กซิบิชั่น สเปซ (ACES) อังสนา ลากูน่า ภูเก็ต // นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดประชุมรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาพักระยะยาว (LONG STAY) ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หลังคณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 อนุมัติหลักการโครงการ Special Tourist Visa (STV) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด 19 โดยมีนางสาวสมภัสสร ร่าหมาน รองผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (ททท.) // นายรวมนคร ทับทิมธงไชย ที่ปรึกษาพิเศษ บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด // นายวิกรม จากที่ ปลัดจังหวัดภูเก็ต// พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตัวแทนสมาคมด้านการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วม นางปิยภัทร สุบรรณ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด กล่าวว่า การจัดประชุมครั้งนี้ อยากให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวภูเก็ต หารือร่วมกันถึงประเด็นความพร้อม และข้อขัดข้องในการเปิดรับนักท่องเที่ยว ช่วยกันเสนอความคิด เพื่อสร้างความเข้าใจ ที่ผ่านมาไทยแลนด์ลองสเตย์ ทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อให้ Special Tourist Visa (STV) เกิดขึ้น จนผ่าน ครม.ไปเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 ย้ำว่าประเทศไทยต้องมีกฎหมายและมาตรการรองรับอย่างเข้มงวด ทางบริษัทมั่นใจ....นักท่องเที่ยวกลุ่มที่จะเข้ามา คือนักท่องเที่ยวคุณภาพที่เข้ามาแล้วต้องอยู่ในกฎกติกา และระเบียบของทางภาครัฐ โดยนักท่องเที่ยวที่ประสานมาแล้วตอนนี้ คือ กลุ่มสแกนดิเนเวีย ที่ปกติช่วงนี้จะหนีหนาวเข้ามาพักผ่อนในประเทศไทย และยังมีบางกลุ่มที่เดิมจะเลือกเดินทางไปยังประเทศอิตาลี และสเปน แต่ปีนี้ประเทศเหล่านั้นยังมีปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19 จึงเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทย ซึ่งขณะมียอดสอบถามเข้ามาแล้วกว่า 10,000 คน
ส่วน Special Tourist Visa (STV) จะออกให้เฉพาะผู้ที่ประสงค์เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ระยะยาวตั้งแต่หนึ่งเดือนขึ้นไปเท่านั้น โดยต้องยอมกักตัว 14 วัน ในโรงแรม ASQ หรือ ALSQ และต้องมีการตรวจโควิดซ้ำ ก่อนปล่อยให้เที่ยวในจังหวัด ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ต้องยอมรับข้อตกลง ประกอบด้วย 1) ต้องซื้อโรงแรมที่กักตัวตัวเอง 14 วัน 2) ต้องระบุโรงแรม และชำระค่าเข้าพักทั้งหมด ให้โรงแรมจะอยู่ต่อหลังกักตัว และ 3) ต้องซื้อประกันสุขภาพ คุ้มครองโควิดในวงเงิน 100,000 เหรียญสหรัฐ แต่สิ่งที่เป็นห่วงตอนนี้ คือ อยากสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ อยากให้คนภูเก็ตมั่นใจในระบบสาธารณสุขไทยว่าเรามีประสิทธิภาพดีเยี่ยม อย่างไรก็ตาม ศบค. ยังคงจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามายังจังหวัดภูเก็ต โดยอนุญาตให้เข้ามาได้ด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำ // ไฟท์ละไม่เกิน 120 คน // เพียงเดือนละ 3 ไฟท์ // รวมแล้ว 360 คนต่อเดือนเท่านั้น ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป โดยคำนึงถึงความรู้สึกของคนในท้องถิ่นเป็นหลัก
ขณะที่ นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในแง่ของจังหวัดภูเก็ต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีนโยบายชัดเจน คือ การแง้มประตูจังหวัด // ภูเก็ตต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน เส้นทางคมนาคมขนส่ง โรงแรมที่พัก และโรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้เรามีความพร้อม เช่น โรงแรมที่พักสำหรับกักตัวของนักท่องเที่ยว จังหวัดได้แต่งตั้งคณะทำงานออกไปประเมินโรงแรมต่าง ๆ 78 แห่ง ที่สมัครเข้าร่วมเป็นโรงแรม ALQ ซึ่งขณะนี้มีโรงแรมที่ผ่านการประเมินเป็น ALQ แล้ว 4 แห่ง และตามที่ ศบค.ได้กำหนดให้นักท่องเที่ยว 11 กลุ่ม เดินทางเข้ามาในประเทศได้ ที่ผ่านมากลุ่มดังกล่าวก็ทยอยเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจังหวัดภูเก็ตได้มีการทดสอบระบบ ตั้งแต่ท่าอากาศยานภูเก็ต มีการตรวจสอบหลักฐาน ทั้งใบ COE // COVID FREE 72 ชม. // หนังสือยินยอมกักตัว 14 วัน และประกันชีวิต 100,000 US โดยมีเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานภูเก็ตคอยตรวจสอบอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตยืนยันจะทำทุกอย่างอย่างรัดกุม ไม่ประมาท กำชับเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง
นอกจากนี้ยังส่งทหารตำรวจไปดูแลโรงแรม ALQ อย่างเข้มงวด เพื่อบังคับใช้กฎหมายจับกุม...หากพบนักท่องเที่ยวหลบหนีจากที่กักตัว |