กสม. ปิติกาญจน์ เข้าพบและหารือแนวทางการขับเคลื่อนดำเนินงานเกี่ยวกับธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้องประชุมจันพันวา ชั้น 4 มุขหลัง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นางสาวปิติกาญจน์ สิทธิเดช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ร่วมเป็นประธานการประชุมกับองค์กรภาคีเครือข่ายและหน่วยงานพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือแนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนผู้ประกอบการธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วม
ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการหารือในประเด็นต่าง ๆ ร่วมกัน ดังนี้ การนำเสนอและการประชาสัมพันธ์บทบาทและหน้าที่ของสำนักงาน กสม. (สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ) ที่สามารถมีส่วนร่วมกับหน่วยงานในจังหวัดภูเก็ตได้ทั้งมิติการประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างรวดเร็ว เป็นธรรม การส่งเสริมและร่วมจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน และความรู้ในการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับหลักการสิทธิมนุษยชน รวมถึงปัจจัยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องดำเนินธุรกิจตามเกณฑ์มาตรฐาน ที่ต้องให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนของทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs ทุกองค์กร ได้รับความรู้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถก้าวสู่ความสำเร็จ ส่งต่อคุณประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศสู่การเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน และร่วมแก้ปัญหาบุคลากร ซึ่งไม่สอดคล้องกับภารกิจที่ได้รับ โดยปัจจุบัน สยจ. แต่ละจังหวัด มีการกิจในการช่วยเหลือประชาชน ตามกฎหมายระดับพระราชบัญญัติในกระทรวงยุติธรรมที่เกี่ยวข้องถึง 5 ฉบับ และได้รับมอบหมายให้เป็นฝ่ายเลขานุการเพื่อประสานงานกับหน่วยงานภายในจังหวัดในการขับเคลื่อนประเด็นสิทธิมนุษยชนตามแผนปฏิบัติการแห่งชาติอีก 2 แผน จึงมีประชาชนเข้ามาติดต่อขอใช้บริการเพื่อรับความช่วยเหลือและขอคำปรึกษาในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่สอดคล้องกับจำนวนบุคลากรที่มีกรอบอัตราที่น้อยและส่วนใหญ่ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่มานานยังคงเป็นพนักงานราชการและลูกจ้าง จึงไม่ได้รับความมั่นคงและความก้าวหน้าเท่าที่ควร และอาจเกิดอุปสรรคเมื่อต้องประสานงานหรือไกล่เกลี่ยกับผู้มีอำนาจ นอกจากนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะได้รับทราบและจะนำข้อมูลของจังหวัดภูเก็ต ไปผลักดันตามหน้าที่และอำนาจให้เกิดข้อเสนอแนะเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาทั้งแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและให้ประชาชนได้เข้าถึงสิทธิในกระบวนการยุติธรรมได้อย่างรวดเร็วและเป็นธรรมต่อไป |