| นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะเนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสิ้นพระชนม์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ | ||
 |
||
| จังหวัดภูเก็ตจัดพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะเนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสิ้นพระชนม์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประจำปี 2566 วันที่ 1 ธันวาคม 2566
วันนี้ ( 1 ธันวาคม 2566) นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะเนื่องในวันที่ระลึกคล้ายวันสิ้นพระชนม์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ โดยมี นายอำนวย พิณสุวรรณ นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนทุกหมู่เหล่า เข้าร่วมพิธี ณ บริเวณลานพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สวนสาธารณะศูนย์ราชการจังหวัดภูเก็ต ถนนเจ้าฟ้า ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
เนื่องในวันที่ 1 ธันวาคม 2566 เป็นวันดำรงราชานุภาพเพื่อน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพที่พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญยิ่ง ในการก่อตั้งและปฏิรูปการจัดระเบียบการปกครองภายในประเทศและการบริหารราชการแผ่นดินของประเทศไทยทรงเป็นองค์ปฐมเสนาบดีแห่งกระทรวงมหาดไทย ได้รับการถวายสมัญญานามว่าพระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย และเป็นคนไทยคนแรกที่องค์การยูเนสโกแห่งสหประชาชาติ ได้ถวายสดุดีให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก ในวันนี้จังหวัดภูเก็ตจึงประกอบพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ
โดยพร้อมใจกันน้อมสักการะด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงวางรากฐานอันมั่นคงให้แก่ชาติไทยและทำนุบำรุงแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สุขแก่สยามประเทศ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเป็นพระราชโอรส ลำดับที่ 57 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและเจ้าจอมมารดาชุ่ม พระองค์ทรงเป็นกำลังสำคัญยิ่งในการปฏิรูปการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงวางรากฐานการปกครองแบบเทศาภิบาลและสุขาภิบาล อันเป็นรากเหง้าของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทรงตราพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่งานตำรวจภูบาลและภูธร ทรงกำหนดความหมายของงานมหาดไทยให้ชัดเจนว่า "บำบัดทุกข์บำรุงสุข" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสว่า"กรมดำรงฯ มอบดวงใจให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงมหาดไทยคือผู้ดูแลประเทศชาติ ชาวไทย ให้มีความร่มเย็นเป็นสุข" ทรงได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยเป็นอย่างสูง ปรากฎพระนามว่า ทรงเป็นอัจฉริยะบุรุษแก่มหาชนในทุกสมัย จนเป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ โดยในปีพุทธศักราช2505 องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือ UNESCO ได้ถวายการสดุดีให้สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรง ราชานุภาพ ทรงเป็น "บุคคลสำคัญของโลก" พระองค์แรกของประเทศไทย ทั้งนี้พระองค์ได้สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พุทธศักราช 2486 ณ วังวรดิศ สิริรวมพระชันษาได้ 81 พรรษา นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวคำถวายสดุดดีในตอนท้ายว่า ด้วยอานิสงค์แห่งความกตัญญู กตเวทิตาธรรมของปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ต่างเพียร บำเพ็ญกุศล สนองพระเดชพระคุณ ถวาย ขออัญเชิญดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมดำรงราชานุภาพ ได้โปรดถวายการอภิบาลรักษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานและโปรดประทานพรแก่ประเทศชาติประชาชนและกระทรวงมหาดไทย จงมีความสุขสิริสวัสดิ์ วัฒนาสถาพรตราบนิรันดร์กาล |
||
| ข้อมูลจาก :: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต [2566-12-04] | ||
| ข่าวอื่นๆ | ||
| >> ข่าวทั้งหมด | ||