วันนี้ (19 ธันวาคม 2561) เวลา 09.15 น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ,นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย พร้อมด้วย พล.ต.ท. พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมประชุม Video Conference รับมอบนโยบายจากพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ 2562
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องจากในเทศกาลวันคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ 2562 รัฐบาลมีนโยบายต้องการที่จะให้ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมครอบครัวเยี่ยมญาติพี่น้องและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆให้มีความปลอดภัยในการเดินทางโดยไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลดังกล่าวโดยในปีนี้นอกจากคนไทยจะมีการเดินทางเป็นจำนวนมากแล้วยังมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนได้รับการดูแลอำนวยความสะดวกและได้รับการบริการที่ดีหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้กำหนดมาตรการในการเตรียมความพร้อมเพื่อเฝ้าระวังป้องกันเหตุและจุด Countdown และจุดสวดมนต์ข้ามปี ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งมีมาตรการในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเพื่อลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์แต่ละปีที่ผ่านมามีผู้ประสบอุบัติเหตุทางท้องถนนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตและทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ได้รับทราบมาตรการในการป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงคริสต์มาสและช่วงเทศกาลปีใหม่ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันจึงจัดประชุมในครั้งนี้เพื่อติดตามความพร้อมในการป้องกันและลดอุบัติเหตุในทุกพื้นที่พร้อมทั้งจะได้มอบนโยบายเพื่อให้ทุกหน่วยงานนำไปปฏิบัติต่อไป
โอกาสนี้สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติได้สนับสนุนข้อมูลด้านการข่าวดังนี้ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและช่วง เทศกาลวันขึ้นปีใหม่ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยโดยเน้นการกวาดล้างอาวุธสงคราม และยาเสพติดการตั้งด่านด้านความมั่นคง การเฝ้าระวังสถานที่เชิงสัญลักษณ์ทางศาสนา ย่านธุรกิจการค้า ห้างสรรพสินค้าตลอดจน สถานที่จัดงาน Countdown 2019 การใช้เครือข่ายภาคประชาชนแจ้งข่าว การตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ในส่วนของการอำนวยการดูแลความสะดวกการเดินทางของประชาชน และมาตรการที่ควรดำเนินการเพิ่มเติมคือการ ขอความร่วมมือ บันทึกเลขบัตรประจำตัวประชาชน ของประชาชนที่ซื้อบัตรโดยสารรถขนส่งมวลชน สาธารณะ อาทิ รถทัวร์ รถไฟ รถตู้โดยสาร เพื่อนำข้อมูลไปใช้บูรณาการร่วมกันในการออกหมายจับผู้ที่อาจจะกระทำความผิดทางกฎหมายได้ ที่อาจจะเตรียมเดินทางมาก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้าน การจัดการของภาครัฐ ให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศและยังเป็นการรองรับ หลักการปฏิบัติในช่วงเทศกาลต่างๆได้อีกทางหนึ่ง
จากนั้นที่ประชุมได้มีการ มอบนโยบายแนวทางการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนน โดยในปี 2562 จะเน้นการรณรงค์ ในหัวข้อ ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร สำหรับเป้าหมายในการปฏิบัติงานคือให้ประชาชนเดินทางสัญจรอย่างปลอดภัยและมีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 โดยกำหนดตัวชี้วัดในการปฏิบัติงานคือจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิตและ จำนวนผู้บาดเจ็บจะต้องลดลงเมื่อเทียบกับสถิติในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
สำหรับแนวทางในการดำเนินการกำหนดเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงการเตรียมความพร้อมและการรณรงค์ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 26 ธันวาคม 2561 และช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2561 ถึง 2 มกราคม 2562 เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งด้านคน ถนน ยานพาหนะ และสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด โดยบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน นำมาตรการดังกล่าวไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จำนวน 6 มาตรการหลัก และ 1 มาตรการเสริม ประกอบด้วย 1.มาตรการการลดปัจจัยเสี่ยงด้านคน ซึ่งจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจังและต่อเนื่อง โดยเฉพาะกฎหมายจราจร ตามมาตรการ 1 ร. 2 ส. 3 ข. 4 ม. (10 รสขม) ได้แก่ 1.ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 2.ขับรถย้อนศร 3.ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร 4.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 5.ไม่มีใบขับขี่ 6.แซงในที่คับขัน 7.เมาสุรา 8.ไม่สวมหมวกนิรภัย 9.มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย และ 10.ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ2.มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม3.มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ4.มาตรการดูแลด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ5. มาตรการความปลอดภัยทางน้ำ6.มาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และ 2 .มาตรการเสริม
ทั้งนี้ ศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนน ได้กำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัด คัดเลือกพื้นที่เพื่อสร้างรูปแบบ 1จังหวัด 1 อำเภอปลอดภัย โดยให้เลือกอำเภอที่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งเด่น และเป็นอำเภอที่มีระดับความเสี่ยงสีแดง สำหรับจังหวัดภูเก็ตพิจารณาคัดเลือกอำเภอเมืองภูเก็ต เป็นพื้นที่ 1จังหวัด 1 อำเภอปลอดภัย
.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต/ข่าว/ภาพ
|