| นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เปิดอุโมงค์ทางลอด พร้อมสนับสนุนรถไฟฟ้ารางเบาและอุโมงค์ป่าตอง และโครงข่ายคมนาคมให้เกิดขึ้นในภูเก็ต | ||
 |
||
| วันนี้ (8 ก.ค.62) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นาย อาคม เติมพิทยาไพสิทธิ์ รมต.ว่าการกระทรวงคมนาคม พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมต.ว่าการกระทรวงมหาดไทย นาย อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมต.ว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะ เดินทางลงพื้นภูเก็ต เป็นประธานเปิด ทางลอดจุดตัดทางหลวง หมายเลข4102 ตัดกับ 4024 กับ 4028 กับถนนเทศบาลตำบลราไวย์ หลังทางลอดดังกล่าวเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2558 และเปิดให้ทดลองใช้มาตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา
สำหรับโครงการก่อสร้างทางลอดห้าแยกฉลอง สร้างขึ้นเพื่อต้องการบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดและส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเนื่องจากจังหวัดภูเก็ตมีการเติบโตทางการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณรถเพิ่มขึ้น และมีปัญหาการจราจรติดขัดในหลายจุด โดยเฉพาะจุดที่มีการก่อสร้างแห่งนี้ถือเป็นพื้นที่เชื่อมโยงไปสู่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอาทิแหลมพรหมเทพ ชายหาดกะตะ และหาดกะรน ใช้งบประมาณการก่อสร้าง 546 ล้านบาทเศษ มีความยาว 730 เมตร กว้าง 9.50-10.5 เมตรความสูงช่องทางลอด 5.50 เมตรหลังคาทางลอด ความยาว 361 เมตรผิวจราจรเป็นขนาด 2 ช่องทางจราจรไปกลับ ใช้เทคนิคแบบขุดเปิดหรือ Open Cut ด้วยวิธีการก่อสร้างจากบนลงล่าง ภายในตกแต่งด้วยประติมากรรมที่บอกเล่าวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของภูเก็ต ส่วนภายนอกมีประติมากรรมหอนาฬิกาดอกบัวทองพร้อมด้วยรูปแกะสลักหลวงพ่อแช่มพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต ทั้งนี้ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมโดยกรมทางหลวงได้ดำเนินงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลัก รวม 6 โครงการเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองและปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยโครงการก่อสร้างทางลอดแยกเข้าสนามบินซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าเปิดใช้ได้ในเดือนตุลาคมนี้ โครงการทางหลวงแนวใหม่สายบ้านสาคูเกาะแก้วอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสม ทางลอดแยกบางคูเปิดใช้ตุลาคม 2560 ทางลอดสามกองเปิดใช้เมื่อมกราคม 2559 ทางลอดแยกดาราสมุทรเปิดใช้เมื่อเมษายน 2550 และโครงการทางพิเศษกะทู้ป่าตองหรือโครงการอุโมงค์ทางลอดป่าตองอยู่ระหว่างการศึกษาออกแบบโดยการทางพิเศษ นอกจากนี้จังหวัดภูเก็ตยังเร่งการพัฒนาการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม) เดินหน้าพัฒนาระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตเพื่อสนองนโยบายประกอบด้วยยุทธศาสตร์ชาติปี 2561-2580 โดยมีระบบการเดินรถหรือระบบรถไฟรางเบาทางวิ่งระดับพื้นดินยกระดับและใต้ดินคาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารต่อวันราว 32,000คน ระยะทาง 42 กิโลเมตรโดยมีจำนวนสถานีทั้งสิ้น 21 สถานีแบ่งเป็นระดับพื้นดิน 19 สถานีและยกระดับหนึ่งสถานีใต้ดินสถานีโดยจะใช้ระยะเวลาเดินทางจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตหรือยังห้าแยกฉลองราว 70 นาที นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาลนั้นพร้อมที่จะให้การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในจังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการเติบโตทางการท่องเที่ยว ในหลายๆโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาออกแบบในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้ารางเบาจากสนามบินมาถึงห้าแยกฉลอง โครงการอุโมงค์กะทู้-ป่าตอง ถนนสายใหม่จากไม้ขาว-เกาะแก้ว จะพิจารณาดูว่าสามารถใช้งบประมาณในส่วนไหนได้บ้าง และโดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ อย่างรถไฟฟ้ารางเบาหรืออุโมงค์ป่าตอง ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก อาจจะให้ทางภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน จะโดยการลงทุนเองทั้งหมดหรือร่วมกับรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้จะมีการพิจารณากันต่อไป ในส่วนของการจัดระเบียบชายหาดนั้น จุดไหนที่คิดว่าสามารถที่จะให้ประชาชนสามารถประกอบอาชีพได้ก็ให้ดำเนินการจัดพื้นที่ให้ประชาชนทำกิน แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งหาดจะเต็มไปด้วยร่มเตียง ซึ่งหากเป็นเช่นกันก็จะไม่สวยงาม จะต้องมีพื้นที่ที่เป็นธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนด้วย นอกจากนี้ในส่วของปัญขยะ น้ำเสีย การขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค จะต้องเร่งแก้ไข ฝากให้ ส.ส.ภูเก็ต เข้ามาดำเนินการเรื่องเหล่านี้ร่วมกับรัฐบาลด้วย และพรรครัฐบาลชุดนี้เป็นของปวงชนชาวไทยทุกคน ไม่ใช่รัฐบาลของพรรคใดพรรคหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขณะที่นายกรัฐมนตรีกำลังอยู่ในระหว่างพิธีเปิดทางลอดห้าแยกฉลองนั้น ได้มีชาวบ้านพื้นที่ ต.ราไวย์ ประมาณ 100 คน เดินทางมาตะโกนเรียกร้องเพื่อจะเข้าไปต้อนรับและพบปะกับนายกรัฐมนตรี อยู่บริเวณรั้วโรงเรียน อบจ.เมืองภูเก็ต หลังจากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีเปิดจัดไว้เฉพาะหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และบุคคลที่เชิญมาร่วมงานเท่านั้น ได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ต่อมานายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ นายสำราญ จินดาพล นายกเทศมนตรีตำบลฉลอง ได้ออกไปพบปะพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านจนสถานการณ์ดีขึ้นและให้ชาวบ้านเข้าไปนั่งรอนายกรัฐมนตรีด้านในรั้วโรงเรียนได้ หลังจากทำพิธีเปิดเสร็จสิ้นนายกรัฐมนตรีก็ได้เดินทางมาพบปะกับชาวบ้านในทันที บ้างขอถ่ายรูปและขอจับมือกับนายกรัฐมนตรี ก่อนพากันแยกย้ายกลับบ้าน ส่วนนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้เดินทางต่อไปยังท่าเรือน้ำลึก ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เพื่อชมการสาธิตการฝึกป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการ พ.ศ.2562 กรณีภัยจากคลื่นสึนามิในพื้นที่ 6 จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงบ่ายนี้ |
||
| ข้อมูลจาก :: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต [2562-07-08] | ||
| ข่าวอื่นๆ | ||
| >> ข่าวทั้งหมด | ||