วันที่ 23 กันยายน 2563 ที่ ศูนย์เศรษฐกิจพอเพียงบ้านลิพอนใต้ หมู่ที่ 5 ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนางบุษยา ใจเปี่ยม ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต นำสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ศึกษาการปรับตัวของชุมชนสู่การพัฒนาตนเองเป็นชุมชนเข้มแข็ง โดยมีนายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร,นายเฉลิมพล เกิดทรัพย์ กำนันบ้านลิพอนใต้ หมู่ที่ 5 ตำบลศรีสุนทร ผู้นำชุมชนผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านในชุมชนร่วมให้การต้อนรับ นายเฉลิมพล เกิดทรัพย์ กำนันบ้านลิพอนใต้ หมู่ที่ 5 ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า "ลิพอนใต้สามัคคี สองวีรสตรี ของดีหลากหลาย สืบสานวัฒนธรรม น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง" เป็นดินแดนแห่งความรักความสามัคคีและการพัฒนา ประชาชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านลิพอนใต้ ซึ่งศูนย์ฯแห่งนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านสมาชิกกลุ่มสตรีในตำบลศรีสุนทร โดยมีสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุนทั้งองค์ความรู้และงบประมาณในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ปัจจุบันทางศูนย์ฯมีสมาชิกกว่า 100 คน มีการส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงไก่ดำ ปลูกข้าวไร่ เเละปลูกผักสวนครัว ส่งเสริมการเเปรรูปอาหารพื้นบ้านเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งน้ำพริก ไตปลาเเห้ง เเละปลาถ้ำ หรือปลากระป๋องพื้นเมือง และโครงการที่เป็นจุดเด่น คือ โครงการ Farm From Home ผักสวนครัวร่วมพัฒน์ฯ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ได้เข้ามาให้ความรู้เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้แก่ชุมชน ด้วยการส่งเสริมให้ชาวบ้านมีการปลูกผักไว้กินเอง ซึ่งเป็นการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาขยายผลสู้โควิด19 ในช่วงที่ผ่านมา ได้เป็นอย่างดี
สำหรับกิจกรรมในวันนี้ ชาวบ้านบ้านลิพอนใต้ ได้จัดกิจกรรมเพื่อให้สื่อมวลชน ได้ศึกษาดูงานอย่างหลากหลาย อาทิการสาธิตการทำ ขนมอาโป้ง ขนมฟักทอง สาธิตการเพ้นท์ผ้า การจัดแสดงและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อม,น้ำพริก,ไตปลาแห้ง พร้อมทั้งได้จัดเตรียมอาหารพื้นบ้าน เพื่อให้สื่อมวลชนได้ลิ้มลอง ได้แก่ แกงไก่บ้านมะพร้าวคั่ว, ต้มเคี่ยมปลาเค็ม,ปลาถ้ำและข้าวยำ และอีกกิจกรรมที่สำคัญคือ ได้จัดแสดงภาคบันเทิง คือการโชว์หนังปละตก หรือหนังตะลุง เพื่อสร้างความบันเทิงและให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ของชาวบ้านลิพอนใต้ด้วย
สำหรับความเข้มแข็งของศูนย์พัฒนาชุมชนบ้านลิพอนใต้หมู่ที่ 5 ใช้หลักการการมีส่วนร่วมกันดังนี้
1. ร่วมอยู่ คือทำให้เกิดมีจิตสำนึกในตนเองในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ตนอยู่
2. ร่วมกิน คือการเข้าใจสภาพความเป็นอยู่ในชุมชนและพิจารณาอย่างรอบด้านเพื่อที่จะวางแผนและดำเนินการพัฒนาได้อย่างเหมาะสม
3. ร่วมคิด คือ ร่วมกันคิดว่าอะไรคือปัญหาของชุมชนมีสาเหตุอย่างไรจะจัดลำดับความสำคัญและแก้ปัญหาอะไรก่อนหลัง
4. ร่วมทำ คือจะต้องร่วมกิจกรรมด้วยความเต็มใจเต็มกำลังร่วมติดตามร่วมตรวจสอบ
5. ร่วมตัดสินใจคือจะต้องกล้าตัดสินใจติดตามตรวจสอบการดำเนินงานตามโครงการว่าเป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมหรือไม่
6. ร่วมรับผลประโยชน์คือประชาชนที่เข้ามามีส่วนร่วมกิจกรรมของชุมชนย่อมที่จะได้รับประโยชน์ในกิจกรรมนั้น ๆ ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องอยู่ในรูปของเงินวัตถุสิ่งของแต่อาจเป็นความสุขหรือพอใจความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
โอกาสนี้ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เน้นการเกษตร ผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป และส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก อย่างแท้จริง ในส่วนของแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษหรือ Special tourist Visa STV ขณะนี้ จังหวัดภูเก็ตกำลัง เตรียมความพร้อมทดสอบระบบต่าง ๆ เตรียมติดตั้งอุปกรณ์ เครื่องมือ คัดกรอง ที่ สนามบินภูเก็ต การประสานการทำงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ย้ำว่าภูเก็ตต้องปลอดภัย ควบคู่กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ให้ผู้ประกอบการและพี่น้องประชาชน มีรายได้ มีความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสุขภาพ โดยการเปลี่ยนจุดยืนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแบ่งปันและมีน้ำใจ |